วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

‘เฮียชาญชัย’เผยเหตุขูดรถ ฉุนคู่กรณีจอดซิฟิโร่ขายบนที่หลวงตลอด 24 ชม.



จากกรณีที่นายมงคล  ภูชงค์แก้ว อายุ 32 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 69/15 ถนนมลิวรรณ ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย  ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ณัฐกมล  ท้าวกลาง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย  ว่าเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม  2558  เวลาประมาณ 07.00 น.  นายชาญชัย  เหลืองสุวรรณ  เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์  และเป็นรองประธานหอการค้าเลย  ใช้ของมีคมขูดรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิฟิโร่ที่จอดอยู่ริมถนนสถลเชียงคาน ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย  บริเวณหน้าห้องสมุดประชาชน จ.เลย ได้รับความเสียหาย เป็นรอยแผลยาวตลอดแนวด้านซ้ายของตัวรถ  พร้อมนำหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอซึ่งบันทึกภาพผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่  ซึ่งนายมงคลบอกกับพนักงานสอบสวนว่า ก่อนหน้านี้รถตนถูกของมีคมขีดข่วนมาแล้ว 5 ครั้ง  จึงได้ตั้งกล้องแอบถ่าย เพื่อเป็นหลักฐานแจ้งความ

ต่อมา นายชาญชัยได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ยอมรับผิด เพราะจำนนด้วยหลักฐาน พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด นายมงคล เจ้าทุกข์จึงได้ถอนแจ้งความ ยุติการดำเนินคดี  อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น คลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่โลกสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของนายชาญชัย  เหลืองสุวรรณ อย่างรุนแรง เนื่องจากมีตำแหน่งเป็นถึงรองประธานหอการค้า จ.เลย

ภาพที่นายชาญชัยถ่ายไว้เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 58 

นายชาญชัย  เหลืองสุวรรณ  เปิดเผยกับเลยไทม์ออนไลน์ว่า ตนยอมรับผิดทุกประการ  ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ รู้สึกโมโหที่นายมงคลนำรถมาจอดแล้วขึ้นป้ายขาย ทั้งวันทั้งคืน นานกว่า 3 เดือนแล้ว ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ทำให้ประชาชนที่มาซื้อข้าวของหรือมาใช้บริการห้องสมุดไม่มีที่จอดรถ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน ทำให้รถหลายคันต้องมาจอดหน้าร้านของตน และจอดซ้อนคัน ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย รถติดยาว ในฐานะที่ตนเป็นรองประธานหอการค้า ก็อยากเห็นบ้านเมืองสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย  แต่นายมงคลกลับเห็นแก่ตัว เอาเปรียบสังคม อาศัยถนนสาธารณจอดขายรถ  ซึ่งตนเคยร้องเรียนไปที่เทศบาลเมืองเลยแล้ว เจ้าหน้าที่เทศกิจก็มาสั่งห้ามจอดขายรถ พอเจ้าหน้าที่กลับไป นายมงคลก็เอาป้ายขึ้นมาตั้งใหม่  ตนจึงได้ถ่ายภาพเก็บไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 จนถึงตอนนี้ก็ยังทำเช่นเดิม

เจ้าของร้านชาญชัยเฟอร์นิเจอร์กล่าวว่า  กระทำในฐานะส่วนตัว  ไม่เกี่ยวกับองค์กรหอการค้าแต่อย่างใด  อยากจะสั่งสอนให้นายมงคลรู้ว่าไม่ควรทำเช่นนี้  เพราะที่คือสาธารณสมบัติ ไม่ใช่ให้ใครมายึดครองทำมาหากินแบบส่วนตัว



ด้านนายธีระศักดิ์ ศุภพิทักษ์ไพบูลย์   ประธานหอการค้าจังหวัดเลย  เปิดเผยว่า  หลังจากที่ข่าวเรื่องนี้เผยแพร่ออกไป  ตนได้เข้าพบพูดคุยกับนายชาญชัย  สอบถามข้อเท็จจริง  ซึ่งนายชาญชัยก็ยอมรับผิดว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ตนจึงได้กล่าวตักเตือนให้ยั้งคิด หากจะทำเช่นนี้ เพราะมีตำแหน่งเป็นรองประธานหอการค้า ต้องมีวุฒิภาวะ และความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าปกติ  ควรคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูข้อบังคับขององค์กรแล้ว ไม่สามารถจะเอาผิด หรือลงโทษใดๆได้  ประธานหอการค้าเลยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม 2558  รถคันดังกล่าวยังจอดอยู่ที่เดิม  ขณะที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ของนายชาญชัยยังคงเปิดขายตามปกติ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น