วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดส่ง จม.ถึงพล.อ.ประยุทธ์ เร่งกำจัดทหารมาเฟียนอกรีตนำชายฉกรรจ์ทำร้ายชาวบ้าน


จากกรณีที่เมื่อช่วงค่ำคืนของวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 ได้มีชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธปืน มีด และท่อเหล็กประมาณ 400 คนเข้ามาในพื้นที่บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย หมู่บ้านที่อยู่ติดกับเหมืองทองบริษัททุ่งคำจำกัด โดยได้ทำการปิดล้อมตามจุดตรวจชุมชนและจับควบคุมตัวชาวบ้านที่อยู่ประจำจุดตรวจทางเข้าหมู่บ้าน จำนวน 30-40  คนเอาไว้ ได้ถูกรุมทำร้ายจับมัดมือชาวบ้านทั้งหญิงชาย พร้อมกับชิงเอาทรัพย์สินของชาวบ้านไปด้วย และยิงปืนข่มขู่ตลอดทั้งคืน จาก 4 ทุ่มถีงตี 5 ชาวบ้านบาดเจ็บจำนวนมาก เพื่อทำการขนแร่ทองแดงมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ออกจากเหมืองทองคำบริษัททุ่งคำจำกัด นั้น

เว็บไซต์คนชายขอบ (http://transbordernews.in.th/ ) รายงานว่า  เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557  ชาวบ้านในนามกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด  6 หมู่บ้าน ต.เขาหลวง ได้ประชุมหารือถึงกรณีดังกล่าว  โดยมีมติส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อร้องทุกข์ กรณีที่มีนายทหารพัวพันกับการขนแร่ของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน 6 หมู่บ้าน

จดหมายเปิดผนึกระบุว่า จากเหตุการณ์เมื่อ วันที่ 21 – 22 เมษายน 2557 นายทหารยศพลโทรายหนึ่ง และผู้ติดตามอีก 16 คน ซึ่งอ้างว่าเป็นทหารได้เดินทางเข้ามาที่หมู่บ้านนาหนองบง คุ้มใหญ่โดยใช้รถตู้คันหนึ่งที่โดยสารหมาย เลขทะเบียน ฮก 4700 กรุงเทพมหานคร จดทะเบียนในชื่อนายทหารยศพันโทรายหนึ่งเมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านของนายสุรพันธ์  รุจิไชยวัฒน์ ก็ได้บุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านและแสดงพฤติกรรมข่มขู่คุกคามประชาชน กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด ที่มาเฝ้าดูเหตุการณ์ หลังจากนั้นได้เปิดเผยความต้องการที่จะขนแร่ทองแดงของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ผ่านถนนสาธารณะของชุมชน

หลังเหตุการณ์กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ วันที่ 24 เมษายน 2557 เพื่อร้องเรียนการละเมิดสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนและกรณีปัญหาการข่มขู่คุกคามในหมู่บ้าน และขอให้พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการสอบสวน นายทหารนอกราชการยศพลโทรายนี้  และกลุ่มผู้ติดตามที่อ้างว่าเป็นนายทหารดังกล่าวแต่จนบัดนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น

ในจดหมายระบุอีกว่า เหตุการณ์ในคืนวันที่ 15 พฤษภาคม ถึง เช้าวันที่ 16 พฤษภาคม 2557  มีพยานในเหตุการณ์ยืนยันได้ว่ามีนายทหารเป็นผู้สั่งการการปฏิบัติการขนแร่เถื่อนในครั้งนี้รวมถึงทั้งแผนการและลักษณะของการปฏิบัติการก็คล้ายการจู่โจมของทหาร จากนั้นประชาชน จึงรวมกลุ่มกันจัดเวรยามเพื่อตรวจสอบดูแลความปลอดภัยของประชาชนในหมู่บ้านด้วยตนเอง เนื่องจากข้อมูลจากอุตสาหกรรมจังหวัดเลยระบุว่า จำนวนแร่ทองแดงที่กองกำลังเถื่อนติดอาวุธขนออกไปได้นั้นมีจำนวน476 ตันแต่สามารถขนออกไปได้เพียง 316 ตัน คงเหลือแร่ทองแดงที่ยังไม่ได้ทำการขน 160 ตัน รวมถึงสื่อมวลชนได้รายงานว่ายังมีแร่ทองแดงที่ค้างอยู่ในเหมืองทองคำแห่งนี้อีกประมาณ 2,000 ตัน และแร่ที่ยังไม่ได้แต่งอีก 20,000 ตัน โดยที่ประชาชน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ได้ทราบว่าข่าวจะมีการขนแร่ด้วยรถบรรทุก 55 อีกครั้งในวันที่ 29-30 พฤษภาคมนี้ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันหรือไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีการขนแร่โดยใช้กองกำลังเถื่อนติดอาวุธเข้ามาทำร้ายประชาชนในหมู่บ้านอีกหรือไม่

ในจดหมายระบุด้วยว่า ยิ่งเมื่อกองทัพบกประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ในขณะที่ประชาชน กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ได้รวมกลุ่มกันจัดเวรยามเพื่อตรวจสอบดูแลความปลอดภัยของประชาชนในหมู่บ้านด้วยตนเองสถานการณ์ดังนี้ได้สร้างความหวั่นวิตกต่อประชาชนในหมู่บ้าน เนื่องจากอาจจะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะถูกคุกคามทำร้ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อการขนแร่ของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด มีความเกี่ยวข้องชัดเจนกับนายทหาร  ทางกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจึงเรียนมาเพื่อขอให้พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก เร่งดำเนินการตรวจสอบนายทหารนอกรีต ทั้งที่ปลดประจำการแล้ว และอยู่ระหว่างรับราชการ ที่เป็นตัวการและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนแร่ของ บริษัท ทุ่งคำ จำกัด อย่างเร่งด่วน โดยให้มีการลงโทษอย่างสูงสุดทั้งทางวินัยและดำเนินคดีอาญาหากพบความผิด.

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น